เนื่องจากวัฒนธรรมการดื่มกาแฟในช่วงแรก เป็นการตอบสนองตลาดจำนวนมากหรือ mass market เพื่อให้คนเข้าถึงกาแฟได้ง่ายที่สุด ฉะนั้นผู้นำในยุคแรกของการดื่มกาแฟคือผู้ผลิต instant coffee หรือกาแฟผงละลายน้ำทั้งหลาย (Folger, Maxwell ในอเมริกา และ Nescafe ในไทย) และด้วยเหตุผลนี้เอง เรื่องแหล่งที่มาหรือสายพันธุ์กาแฟต่างๆ ยังไม่ได้มีความสำคัญในด้านการผลิตกาแฟเหล่านี้มากนัก เพื่อตอบโจทย์ด้านความสะดวก ความไม่ยุ่งยากด้านการจัดหาวัตถุดิบและการบริหารให้ต้นทุนต่ำ กาแฟที่ดื่มกันทั่วไปก็คือกาแฟดำที่ชงมาจากผงกาแฟสำเร็จรูป แล้วจะบวกน้ำตาล นม หรือ ครีมเทียมเพิ่ม ก็แล้วแต่ความต้องการในรสชาติของแต่ละท่านไป
กาแฟไม่ใช่เครื่องดื่มที่แค่ช่วยให้ตื่นตัวในยามเช้าอีกต่อไป
เมื่อกาแฟได้เป็นส่วนนึงของเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะในอเมริกา คนดื่มกาแฟจึงเริ่มแสวงหากาแฟที่มีคุณภาพและรสชาติที่แตกต่างมากขึ้น เป็นกระแสการดื่มกาแฟที่คนกาแฟเรียกกันว่า 2nd wave coffee ที่นำมาโดยเครื่องดื่มอย่าง Espresso Latte และมีพระเอกหลักที่ทำให้กระแสของกาแฟในยุคนี้กระจายไปทั่วโลกคือ Starbucks ซึ่งนำเสนอกาแฟที่มีคุณภาพสม่ำเสมอในทุกๆสาขา ทำให้การดื่มกาแฟเป็นการดื่มด่ำกับประสบการณ์ และ เป็นไลฟ์สไตล์ใหม่ๆที่คนเราเริ่มนัดพบปะหรือซื้อกาแฟดื่มนอกบ้าน แทนที่การชงกาแฟผงเองที่บ้านหรือที่ออฟฟิศกันมากขึ้น
คลื่นลูกใหม่ สายคุณภาพและความใส่ใจในรายละเอียด
มาถึงกาแฟ 3rd wave กันบ้างครับ จริงๆแลัว กาแฟยุคนี้เกิดขึ้นได้เนื่องจากความแพร่หลายของ 2nd wave ที่ทำให้การดื่มหรือซื้อกาแฟที่ร้านเติบโตและเป็นส่วนนึงของการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่อย่างแยกกันไม่ได้ เลยนำพาให้มาถึงยุคที่คนดื่มกาแฟเริ่มให้ความสนใจตัวเมล็ดกาแฟคั่วที่มาทำเครื่องดื่มของเค้ากันมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรสชาติที่แตกต่างอันเนื่องมาจากแหล่งปลูกกาแฟในที่ต่างๆกันออกไป หรือโปรไฟล์การคั่วของแต่ละร้านที่ต้องการนำเสนอความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่ชัดเจน ไม่ต่างไปจากเชฟที่สรรหาวัตถุดิบชั้นดีเพื่อปรุงเมนู signature ของตัวเองให้ถูกใจและต่างออกไป ซึ่งตัวอย่างร้านกาแฟที่ทำให้เกิดกระแสนี้ในอเมริกาก็คือร้านอย่างเช่น Blue bottle, Stumptown หรือ Intelligentsia ส่วนที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วง 4-5 ปีหลังๆ ในบ้านเราก็คือการเกิดร้านกาแฟที่ไม่ใช่เชนหรือที่หลายๆคนชอบเรียกว่าร้านกาแฟ indy ทั้งหลายได้ขยายตัวขึ้นอย่างมาก (คลิ๊ก เพื่อเลือกซื้อกาแฟ Single Origin)
เพื่อนๆ ในฐานะผู้บริโภค ได้ประโยชน์กันไปเต็มๆ
การเติบโตด้านวัฒนธรรมการเสริฟและดื่มกาแฟของแต่ละ waves ที่ได้พูดถึงไปนั้นทำให้เรามีทางเลือกในการบริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรสชาติ คุณภาพ และ ราคา ทำให้เรายังเห็นได้ว่าแต่ละ wave นั้นยังสามารถเติบโตได้ในตลาดเป็นอย่างมากเนื่องจากการตอบโจทย์ของสินค้าที่แตกต่างกันไป และโดยส่วนตัวผมเองแล้วการเลือกดื่มกาแฟแบบไหนขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการในวันนั้น หากต้องการความรวดเร็วหรือมีข้อจำกัดจริงๆ ก็ไม่ติดขัดที่จะต้องกิน instant coffee เช่นชงเองในห้องที่โรงแรมหรือดื่มที่ออฟฟิศ หรือถ้าต้องการกาแฟที่รสชาติแน่นอนและหาสาขาได้ไม่ยากในการนัดหมายกับเพื่อนหรือเพื่อคุยงานก็ไปตามร้านเชนกาแฟต่างๆ แต่หากต้องการนั่งดื่มด่ำกาแฟ specialty หรือ กาแฟ single origin เพื่อให้รางวัลกับตัวเองเล็กน้อยในช่วงสุดสัปดาห์ ก็พร้อมที่จะค้นหาร้านใหม่ๆ ให้ได้ไปลองอยู่เสมอๆ ครับ